“สิว” แบ่ง ได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง สิวหนอง สิวหัวช้าง และ สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวหัวเปิดและ สิวหัวปิด
ปัญหาที่ทำให้เกิด “สิว” ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวมีด้วยกันหลายประการ อาทิกรรมพันธุ์ ระดับของฮอร์โมน โรคประจำตัว เช่น ในผู้หญิงที่มีถุงน้ำรังไข่หลายใบจะมีการหลั่งฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดสิว และหน้ามัน
1. การใช้ยาทา
• กรดวิตามินเอชนิดทา จะใช้กับสิวอุดตัน โดยยาจะไปลดการอุดตันของสิว และทำให้การผลัดเซลล์ผิวกลับมาเป็นปกติ ในช่วงแรกที่ใช้อาจเกิดสิวเห่อขึ้นมาได้ ไม่ต้องตกใจนะคะ ให้ใช้ยาต่อเนื่องต่อไป กว่าตัวยาจะออกฤทธิ์อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 สัปดาห์ โดยทาวันละครั้งก่อนนอน ผลข้างเคียง คือ อาจทำให้ผิวแห้ง แสบ ระคายเคือง ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• เบนซอยล์ เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) ทำให้หัวสิวหลุดออกได้เร็วขึ้น และมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย วิธีใช้ให้ทายาบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ผลข้างเคียง คือ อาจทำให้หน้าแดง ลอกเป็นขุย หรือมีอาการคันยิบๆ ที่ใบหน้า
2. การใช้ยากิน
ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาดอกซีไซคลิน Doxycycline) ให้กินตามระยะเวลาที่แพทย์สั่ง ห้ามกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร อาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น
3. รักษาด้วย 𝗔𝗰𝗻𝗲 𝗦𝗲𝘁 กับ Dermaplus Clinic
AHA+กดสิว+ฉีดสิว+มาส์กสิว
4. รักษาด้วย 𝗠𝗲𝘀𝗼 𝗔𝗰𝗻𝗲 กับ Dermaplus Clinic
กดสิว+ฉีดสิว+เมโสสิว+มาส์กสิว
*เมโสสิว จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ใส ผิวนุ่มขึ้น สิวหายไว ลดปัญหาการเกิดสิวใหม่
